Menu Close

สถานการณ์แนวโน้มไก่เนื้อไทย ปี 2566

สถานการณ์แนวโน้มไก่เนื้อ ปี 2566

สถานการณ์แนวโน้มไก่เนื้อไทย ปี 2566

ของโลก

การผลิต

ปี 2566

102.74 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 100.93 ล้านตัน ของปี 2565ร้อยละ 1.79คาดว่าการผลิตเน้อไก่ของโลกจะมีปริมาณการผลิตเนื้อไก่ของโลกขยายตัวตามความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศผู้ผลิตที่สําคัญ ทั้งสหรัฐอเมริกา บราซิล และสหภาพยุโรป ขยายการผลิตเพิ่มขึ้น

การตลาด

(1) ความต้องการบริโภค

ปี 2566 คาดว่าการบริโภคเนื้อไก่ของโลกมีปริมาณ 100.11 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 98.25 ล้านตันในปี 2565 ร้อยละ 1.89 ผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะมีปริมาณการบริโภค 17.90 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ จีน 14.48 ล้านตัน สหภาพยุโรป 10.07 ล้านตัน และบราซิล 10.06 ล้านตัน โดยคาดว่าบราซิลมีปริมาณการ บริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 2.81 เมื่อเทียบกับปี 2565

 

(2) การส่งออก

ปี 2566 คาดว่าการส่งออกเนื้อไก่ของโลกมีปริมาณ 14.13 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 13.63 ล้านตันของปี 2565 ร้อยละ 3.70 ผู้ผลิตรายเดิม (บราซิล สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป) ยังคงเป็นผู้ครองตลาด โดยบราซิลยังคง เป็นประเทศที่ส่งออกเนื้อไก่มากที่สุด คือ 4.80 ล้านตัน

เพิ่มขึ้นจากจาก 4.63 ล้านตัน ของปี 2564 ร้อยละ 3.78 รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และไทย ตามลําดับ ซึ่งไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกอันดับ 4 ของโลก

 

(3) การนําเข้า ปี 2566 โลกมีปริมาณ 11.49 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 11.01 ล้านตัน ของปี 2565 ร้อยละ 4.36 โดยญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ นําเข้าเนื้อไก่มากที่สุด คือ 1.12 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ เม็กซิโก 0.93 ล้านตัน สหราชอาณาจักร 0.88 ล้านตัน โดยแหล่งนําเข้าเนื้อไก่ที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ บราซิล

 

Temp controller

ของไทย

การผลิต

ปี 2566 คาดว่าการผลิตไก่เนื้อของไทยยังคงขยายตัว เพิ่มขึ้นตามจํานวนประชากร และความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดภายในประเทศและตลาด ต่างประเทศ โดยคาดว่าไทยจะผลิตไก่เนื้อปริมาณ 1,781.55 ล้านตัว หรือคิดเป็นเนื้อไก่ 2.85 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1,771.99 ล้านตัว หรือคิดเป็นเนื้อไก่ 2.83 ล้านตัน ของปี 2565 ร้อยละ 0.54

 

การตลาด

(1) ความต้องการบริโภค

ปี 2566 คาดว่าการบริโภคเนื้อไก่ของไทยมีปริมาณ 1.89 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.88 ล้านตันของปี 2565 ร้อยละ 0.17 ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ประกอบ กับเนื้อไก่เป็นอาหารโปรตีนที่มีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ ชนิดอื่น ๆ โดยการบริโภคในประเทศคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 66.26 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด

 

(2) การส่งออก

การส่งออกเนื้อไก่ของไทยในปี 2566 คาดว่าจะ ขยายตัวเพิ่มขึ้นสอดรับกับปริมาณความต้องการบริโภค ของตลาด โดยเฉพาะญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน และ สหภาพยุโรปที่มีแนวโน้มนําเข้าเนื้อไก่จากไทยเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ

 

โดยในปี 2566 คาดว่าการส่งออกเนื้อไก่รวมมีปริมาณ 960,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 948,000 ตันของปี 2565 ร้อยละ 1.27 โดยแบ่งเป็นการส่งออกไก่สดแช่เย็น แช่แข็งมีปริมาณ 397,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 391,500 ตัน ของปี 2565 ร้อยละ 1.40 และการส่งออกเนื้อไก่แปรรูป มีปริมาณ 563,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 556,500 ตัน ของปี 2565 ร้อยละ 1.17

 

(3) ราคา

1) ราคาที่เกษตรกรขายได้

ปี 2566 คาดว่าราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้จะสูง ขึ้นจากปี 2565 เนื่องจากมีการวางแผนการผลิตให้สอด คล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

 

2) ราคาส่งออก

ปี 2566 คาดว่าราคาส่งออกเนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและเนื้อไก่แปรรูปจะลดลงเล็กน้อยจากปี 2565 ซึ่งเป็น ผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

Temp controller

2.3 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อปริมาณการผลิตหรือ การส่งออกของไทย

2.3.1 ปัจจัยด้านบวก

(1) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของจํานวน ประชากรโลก ทําให้ความต้องการบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อไก่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อไก่ เป็นอาหารโปรตีนที่มีไขมันต่ํา รวมทั้งยังมีราคาถูกเมื่อ เทียบกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ

 

(2) การส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นผลจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย ทําให้ซาอุดิอาระเบีย ยกเลิกมาตรการห้ามนําเข้าไก่จากไทย

รัสเซีย – ยูเครนส่งผลให้ยูเครนมีอุปสรรคในการส่งออก ไก่ไปยัง EU จึงเป็นโอกาสในการส่งออกของไทย 

(3) การดําเนินการเรื่อง Compartment และ Traceability สามารถสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการ

ผลิตเนื้อไก่ของไทยให้ประเทศคู่ค้ายอมรับ ซึ่งเป็นผลจาก มาตรการควบคุมป้องกัน และเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่ เข้มงวด ทําให้ไทยไม่มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกใน ประเทศไทยเป็นเวลากว่า 14 ปีนับจากวันที่ทําลายสัตว์ปีก ตัวสุดท้าย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 รวมทั้งการที่ ประเทศคู่ค้าของไทยได้รับรองมาตรฐานโรงงานแปรรูป

และส่งออกไก่ของไทย จึงเป็นโอกาสให้ไทยสามารถ ส่งออกไก่ไปยังตลาดต่างๆ ได้มากขึ้น

 

 2.3.2 ปัจจัยด้านลบ

(1) ประเทศไทยต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิต และ เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น พันธุ์สัตว์ วัตถุดิบอาหาร สัตว์ ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนต้นทุนการผลิตไก่เนื้อ ของไทยโดยเปรียบเทียบสูงกว่าประเทศคู่แข่ง อาทิ บราซิล และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะต้นทุนด้านอาหารสัตว์ 

 

(2) ประเทศต่างๆ มีการนํามาตรการกีดกันทาง การค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Measures : NTMs) มาใช้มากขึ้น โดยนําประเด็นทางสังคมต่างๆ มากําหนด เป็นมาตรฐานทางการค้าระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐาน แรงงาน มาตรฐานสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งประเทศคู่ค้า อาจนําประเด็นดังกล่าวมาใช้กีดกันการค้าระหว่างกัน หากไทยไม่ได้มีการเตรียมการป้องกันและแก้ไขอย่าง จริงจัง ก็อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกเนื้อไก่ของไทยได้ 

 

(3) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เนื่องจาก สินค้าไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่ สําคัญของไทย หากอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนจะส่งผลให้ความสามารถในแข่งขันด้านราคากับประเทศ

 

คู่แข่งลดลง

 
ขอบคุณข้อมูล นิตยสาร สาส์นไก่&สุกร ฉบับที่ 237 เดือน กุมภาพันธ์ 2566
ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดควบคุมสภาพอากาศในโรงเรือน

สถานการณ์แนวโน้มไก่เนื้อไทย ปี 2566

ของโลก
การผลิต
ปี 2566
102.74 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 100.93 ล้านตัน ของปี 2565ร้อยละ 1.79คาดว่าการผลิตเน้อไก่ของโลกจะมีปริมาณการผลิตเนื้อไก่ของโลกขยายตัวตามความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศผู้ผลิตที่สําคัญ ทั้งสหรัฐอเมริกา บราซิล และสหภาพยุโรป ขยายการผลิตเพิ่มขึ้น
 
การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2566 คาดว่าการบริโภคเนื้อไก่ของโลกมีปริมาณ 100.11 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 98.25 ล้านตันในปี 2565 ร้อยละ 1.89 ผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะมีปริมาณการบริโภค 17.90 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ จีน 14.48 ล้านตัน สหภาพยุโรป 10.07 ล้านตัน และบราซิล 10.06 ล้านตัน โดยคาดว่าบราซิลมีปริมาณการ บริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 2.81 เมื่อเทียบกับปี 2565
 
(2) การส่งออก
ปี 2566 คาดว่าการส่งออกเนื้อไก่ของโลกมีปริมาณ 14.13 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 13.63 ล้านตันของปี 2565 ร้อยละ 3.70 ผู้ผลิตรายเดิม (บราซิล สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป) ยังคงเป็นผู้ครองตลาด โดยบราซิลยังคง เป็นประเทศที่ส่งออกเนื้อไก่มากที่สุด คือ 4.80 ล้านตัน
 
เพิ่มขึ้นจากจาก 4.63 ล้านตัน ของปี 2564 ร้อยละ 3.78 รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และไทย ตามลําดับ ซึ่งไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกอันดับ 4 ของโลก
 
(3) การนําเข้า ปี 2566 โลกมีปริมาณ 11.49 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 11.01 ล้านตัน ของปี 2565 ร้อยละ 4.36 โดยญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ นําเข้าเนื้อไก่มากที่สุด คือ 1.12 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ เม็กซิโก 0.93 ล้านตัน สหราชอาณาจักร 0.88 ล้านตัน โดยแหล่งนําเข้าเนื้อไก่ที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ บราซิล
 

Temp controller

ของไทย
การผลิต
ปี 2566 คาดว่าการผลิตไก่เนื้อของไทยยังคงขยายตัว เพิ่มขึ้นตามจํานวนประชากร และความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดภายในประเทศและตลาด ต่างประเทศ โดยคาดว่าไทยจะผลิตไก่เนื้อปริมาณ 1,781.55 ล้านตัว หรือคิดเป็นเนื้อไก่ 2.85 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1,771.99 ล้านตัว หรือคิดเป็นเนื้อไก่ 2.83 ล้านตัน ของปี 2565 ร้อยละ 0.54
 
การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2566 คาดว่าการบริโภคเนื้อไก่ของไทยมีปริมาณ 1.89 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.88 ล้านตันของปี 2565 ร้อยละ 0.17 ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ประกอบ กับเนื้อไก่เป็นอาหารโปรตีนที่มีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ ชนิดอื่น ๆ โดยการบริโภคในประเทศคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 66.26 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด
 
(2) การส่งออก
การส่งออกเนื้อไก่ของไทยในปี 2566 คาดว่าจะ ขยายตัวเพิ่มขึ้นสอดรับกับปริมาณความต้องการบริโภค ของตลาด โดยเฉพาะญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน และ สหภาพยุโรปที่มีแนวโน้มนําเข้าเนื้อไก่จากไทยเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ
 
โดยในปี 2566 คาดว่าการส่งออกเนื้อไก่รวมมีปริมาณ 960,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 948,000 ตันของปี 2565 ร้อยละ 1.27 โดยแบ่งเป็นการส่งออกไก่สดแช่เย็น แช่แข็งมีปริมาณ 397,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 391,500 ตัน ของปี 2565 ร้อยละ 1.40 และการส่งออกเนื้อไก่แปรรูป มีปริมาณ 563,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 556,500 ตัน ของปี 2565 ร้อยละ 1.17
 
(3) ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้
ปี 2566 คาดว่าราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้จะสูง ขึ้นจากปี 2565 เนื่องจากมีการวางแผนการผลิตให้สอด คล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
 
2) ราคาส่งออก
ปี 2566 คาดว่าราคาส่งออกเนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและเนื้อไก่แปรรูปจะลดลงเล็กน้อยจากปี 2565 ซึ่งเป็น ผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยน
 
2.3 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อปริมาณการผลิตหรือ การส่งออกของไทย
2.3.1 ปัจจัยด้านบวก
(1) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของจํานวน ประชากรโลก ทําให้ความต้องการบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อไก่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อไก่ เป็นอาหารโปรตีนที่มีไขมันต่ํา รวมทั้งยังมีราคาถูกเมื่อ เทียบกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ
 
(2) การส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นผลจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย ทําให้ซาอุดิอาระเบีย ยกเลิกมาตรการห้ามนําเข้าไก่จากไทย
 
รัสเซีย – ยูเครนส่งผลให้ยูเครนมีอุปสรรคในการส่งออก ไก่ไปยัง EU จึงเป็นโอกาสในการส่งออกของไทย (3) การดําเนินการเรื่อง Compartment และ Traceability สามารถสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการ
 
ผลิตเนื้อไก่ของไทยให้ประเทศคู่ค้ายอมรับ ซึ่งเป็นผลจาก มาตรการควบคุมป้องกัน และเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่ เข้มงวด ทําให้ไทยไม่มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกใน ประเทศไทยเป็นเวลากว่า 14 ปีนับจากวันที่ทําลายสัตว์ปีก ตัวสุดท้าย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 รวมทั้งการที่ ประเทศคู่ค้าของไทยได้รับรองมาตรฐานโรงงานแปรรูป
 
และส่งออกไก่ของไทย จึงเป็นโอกาสให้ไทยสามารถ ส่งออกไก่ไปยังตลาดต่างๆ ได้มากขึ้น

Temp controller

 
 2.3.2 ปัจจัยด้านลบ
(1) ประเทศไทยต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิต และ เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น พันธุ์สัตว์ วัตถุดิบอาหาร สัตว์ ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนต้นทุนการผลิตไก่เนื้อ ของไทยโดยเปรียบเทียบสูงกว่าประเทศคู่แข่ง อาทิ บราซิล และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะต้นทุนด้านอาหารสัตว์ 
 
(2) ประเทศต่างๆ มีการนํามาตรการกีดกันทาง การค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Measures : NTMs) มาใช้มากขึ้น โดยนําประเด็นทางสังคมต่างๆ มากําหนด เป็นมาตรฐานทางการค้าระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐาน แรงงาน มาตรฐานสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งประเทศคู่ค้า อาจนําประเด็นดังกล่าวมาใช้กีดกันการค้าระหว่างกัน หากไทยไม่ได้มีการเตรียมการป้องกันและแก้ไขอย่าง จริงจัง ก็อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกเนื้อไก่ของไทยได้ 
 
(3) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เนื่องจาก สินค้าไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่ สําคัญของไทย หากอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนจะส่งผลให้ความสามารถในแข่งขันด้านราคากับประเทศ
คู่แข่งลดลง
 
ขอบคุณข้อมูล นิตยสาร สาส์นไก่&สุกร ฉบับที่ 237 เดือน กุมภาพันธ์ 2566
ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดควบคุมสภาพอากาศในโรงเรือน

สถานการณ์แนวโน้มไก่เนื้อไทย ปี 2566

ของโลก
การผลิต
ปี 2566
102.74 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 100.93 ล้านตัน ของปี 2565ร้อยละ 1.79คาดว่าการผลิตเน้อไก่ของโลกจะมีปริมาณการผลิตเนื้อไก่ของโลกขยายตัวตามความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศผู้ผลิตที่สําคัญ ทั้งสหรัฐอเมริกา บราซิล และสหภาพยุโรป ขยายการผลิตเพิ่มขึ้น
 
การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2566 คาดว่าการบริโภคเนื้อไก่ของโลกมีปริมาณ 100.11 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 98.25 ล้านตันในปี 2565 ร้อยละ 1.89 ผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะมีปริมาณการบริโภค 17.90 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ จีน 14.48 ล้านตัน สหภาพยุโรป 10.07 ล้านตัน และบราซิล 10.06 ล้านตัน โดยคาดว่าบราซิลมีปริมาณการ บริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 2.81 เมื่อเทียบกับปี 2565
 
(2) การส่งออก
ปี 2566 คาดว่าการส่งออกเนื้อไก่ของโลกมีปริมาณ 14.13 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 13.63 ล้านตันของปี 2565 ร้อยละ 3.70 ผู้ผลิตรายเดิม (บราซิล สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป) ยังคงเป็นผู้ครองตลาด โดยบราซิลยังคง เป็นประเทศที่ส่งออกเนื้อไก่มากที่สุด คือ 4.80 ล้านตัน
 
เพิ่มขึ้นจากจาก 4.63 ล้านตัน ของปี 2564 ร้อยละ 3.78 รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และไทย ตามลําดับ ซึ่งไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกอันดับ 4 ของโลก
 
(3) การนําเข้า ปี 2566 โลกมีปริมาณ 11.49 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 11.01 ล้านตัน ของปี 2565 ร้อยละ 4.36 โดยญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ นําเข้าเนื้อไก่มากที่สุด คือ 1.12 ล้านตัน รองลงมา ได้แก่ เม็กซิโก 0.93 ล้านตัน สหราชอาณาจักร 0.88 ล้านตัน โดยแหล่งนําเข้าเนื้อไก่ที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ บราซิล
 

Temp controller

ของไทย
การผลิต
ปี 2566 คาดว่าการผลิตไก่เนื้อของไทยยังคงขยายตัว เพิ่มขึ้นตามจํานวนประชากร และความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดภายในประเทศและตลาด ต่างประเทศ โดยคาดว่าไทยจะผลิตไก่เนื้อปริมาณ 1,781.55 ล้านตัว หรือคิดเป็นเนื้อไก่ 2.85 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1,771.99 ล้านตัว หรือคิดเป็นเนื้อไก่ 2.83 ล้านตัน ของปี 2565 ร้อยละ 0.54
 
การตลาด
(1) ความต้องการบริโภค
ปี 2566 คาดว่าการบริโภคเนื้อไก่ของไทยมีปริมาณ 1.89 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.88 ล้านตันของปี 2565 ร้อยละ 0.17 ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ประกอบ กับเนื้อไก่เป็นอาหารโปรตีนที่มีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ ชนิดอื่น ๆ โดยการบริโภคในประเทศคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 66.26 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด
 
(2) การส่งออก
การส่งออกเนื้อไก่ของไทยในปี 2566 คาดว่าจะ ขยายตัวเพิ่มขึ้นสอดรับกับปริมาณความต้องการบริโภค ของตลาด โดยเฉพาะญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน และ สหภาพยุโรปที่มีแนวโน้มนําเข้าเนื้อไก่จากไทยเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ
 
โดยในปี 2566 คาดว่าการส่งออกเนื้อไก่รวมมีปริมาณ 960,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 948,000 ตันของปี 2565 ร้อยละ 1.27 โดยแบ่งเป็นการส่งออกไก่สดแช่เย็น แช่แข็งมีปริมาณ 397,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 391,500 ตัน ของปี 2565 ร้อยละ 1.40 และการส่งออกเนื้อไก่แปรรูป มีปริมาณ 563,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 556,500 ตัน ของปี 2565 ร้อยละ 1.17
 
(3) ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้
ปี 2566 คาดว่าราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้จะสูง ขึ้นจากปี 2565 เนื่องจากมีการวางแผนการผลิตให้สอด คล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
 
2) ราคาส่งออก
ปี 2566 คาดว่าราคาส่งออกเนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและเนื้อไก่แปรรูปจะลดลงเล็กน้อยจากปี 2565 ซึ่งเป็น ผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยน
 

Temp controller

 
2.3 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อปริมาณการผลิตหรือ การส่งออกของไทย
2.3.1 ปัจจัยด้านบวก
(1) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของจํานวน ประชากรโลก ทําให้ความต้องการบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อไก่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อไก่ เป็นอาหารโปรตีนที่มีไขมันต่ํา รวมทั้งยังมีราคาถูกเมื่อ เทียบกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ
 
(2) การส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นผลจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย ทําให้ซาอุดิอาระเบีย ยกเลิกมาตรการห้ามนําเข้าไก่จากไทย
รัสเซีย – ยูเครนส่งผลให้ยูเครนมีอุปสรรคในการส่งออก ไก่ไปยัง EU จึงเป็นโอกาสในการส่งออกของไทย 
 
(3) การดําเนินการเรื่อง Compartment และ Traceability สามารถสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการ
 
ผลิตเนื้อไก่ของไทยให้ประเทศคู่ค้ายอมรับ ซึ่งเป็นผลจาก มาตรการควบคุมป้องกัน และเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่ เข้มงวด ทําให้ไทยไม่มีรายงานการพบโรคไข้หวัดนกใน ประเทศไทยเป็นเวลากว่า 14 ปีนับจากวันที่ทําลายสัตว์ปีก ตัวสุดท้าย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 รวมทั้งการที่ ประเทศคู่ค้าของไทยได้รับรองมาตรฐานโรงงานแปรรูป
 
และส่งออกไก่ของไทย จึงเป็นโอกาสให้ไทยสามารถ ส่งออกไก่ไปยังตลาดต่างๆ ได้มากขึ้น
 
 2.3.2 ปัจจัยด้านลบ
(1) ประเทศไทยต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิต และ เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น พันธุ์สัตว์ วัตถุดิบอาหาร สัตว์ ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนต้นทุนการผลิตไก่เนื้อ ของไทยโดยเปรียบเทียบสูงกว่าประเทศคู่แข่ง อาทิ บราซิล และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะต้นทุนด้านอาหารสัตว์ 
 
(2) ประเทศต่างๆ มีการนํามาตรการกีดกันทาง การค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Measures : NTMs) มาใช้มากขึ้น โดยนําประเด็นทางสังคมต่างๆ มากําหนด เป็นมาตรฐานทางการค้าระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐาน แรงงาน มาตรฐานสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งประเทศคู่ค้า อาจนําประเด็นดังกล่าวมาใช้กีดกันการค้าระหว่างกัน หากไทยไม่ได้มีการเตรียมการป้องกันและแก้ไขอย่าง จริงจัง ก็อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกเนื้อไก่ของไทยได้ 
 
(3) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เนื่องจาก สินค้าไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่ สําคัญของไทย หากอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนจะส่งผลให้ความสามารถในแข่งขันด้านราคากับประเทศ
คู่แข่งลดลง
 
ขอบคุณข้อมูล นิตยสาร สาส์นไก่&สุกร ฉบับที่ 237 เดือน กุมภาพันธ์ 2566
ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดควบคุมสภาพอากาศในโรงเรือน
Tempcontroller
temp climate controller
siam water flame
error: เนื้อหาได้รับการคุ้มครอง !!